เพื่อการดำเนินกิจการของเรา บริษัท ไอซิน พาวเวอร์เทรน (ประเทศไทย) จำกัด (ต่อไปนี้เรียกว่า “AIPT” “บริษัทฯ” หรือ “เรา” ) ได้มีการประมวลผลข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อมูลทางด้านการค้าและข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายฉบับนี้เกี่ยวข้องกับการประมวลผลของข้อมูลประเภทต่างๆ ซึ่งสามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน สมาชิกในครอบครัวของพนักงาน พนักงานจากบริษัทภายนอก (outsource) ผู้สมัครงาน หรือบุคคลใดๆ ที่ทำการติดต่อกับทาง AIPT
AIPT เข้าใจถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล และความกังวลของพนักงาน สมาชิกในครอบครัวของพนักงาน ผู้สมัครงาน และบุคคลอื่นๆ ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นๆ
นโยบายฉบับนี้ได้ถูกออกแบบเพื่อเป็นมาตรการพื้นฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้กับ AIPT และนโยบายฉบับนี้ จะถูกใช้บังคับโดย AIPT เว้นเสียแต่จะมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลอื่นที่มีเงื่อนไขหรือหน้าที่ที่เข้มงวดยิ่งกว่ามาใช้บังคับ
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ คือ AIPT ซึ่งมีสำนักงานจดทะเบียนตั้งอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 890/2 หมู่ 3 ต. เขาคันทรง อ. ศรีราชา จ. ชลบุรี 20110
เพื่อส่งเสริมการใช้บังคับและการปฎิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ต่อไปนี้เรียกว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หรือ “PDPA”) AIPT จึงเห็นสมควรให้มีการจัดตั้งช่องทางการติดต่อสำหรับ PDPA ขึ้น
ในกรณีที่ท่านต้องการใช้สิทธิของท่าน (โปรดดูข้อ 7 ของนโยบายฉบับนี้) หรือมีข้อสงสัยประการอื่นใดเกี่ยวข้องกับวิธีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ AIPT ท่านสามารถติดต่อมายังคณะทำงานคุ้มครองข้อมูลโดยอีเมล หรือเบอร์โทรด้านล่างนี้
คณะทำงานคุ้มครองข้อมูล
อีเมล: DPO@aipt.aisin-ap.com
โทร: 033-085-111 ต่อ 6008
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีการใช้คำศัพท์เฉพาะและอ้างอิงถึงเรื่องที่เป็นนามธรรม ดังนั้น เพื่อความเข้าใจอันดีของทุกๆ ท่าน บริษัทฯ จึงได้ระบุความหมายและคำจำกัดความของคำศัทพ์ดังกล่าวไว้ดังนี้
ก. ข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา (หรือเรียกว่า เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล)
ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
ข้อมูลส่วนบุคคลได้แก่ ชื่อ เลขประจำตัวประชาชน ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ (location)
ข้อมูลที่สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลอื่นในอินเตอร์เน็ต (online identifier)
หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งมีลักษณะเป็น
สิ่งบ่งเฉพาะทางด้านสรีระ ร่างกาย พันธุกรรม สถานะทางการเงิน วัฒนธรรมและสังคมของบุคคลธรรมดาได้
ข. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล (เช่น บริษัท)
ซึ่งมีอำนาจหน้าที่
ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ค. ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า
บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลดังกล่าวต้องไม่เป็น
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ง. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า การดำเนินการใดๆ หรือชุดของการดำเนินการใดๆ
ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะดำเนินการด้วยวิธีอัตโนมัติหรือไม่ (เช่น
ซอฟต์แวร์) ตัวอย่างเช่น การเก็บรวบรวม ใช้เปิดเผยโดยการส่งผ่าน โอน ส่ง บันทึก จัดระเบียบ จัดโครงสร้าง จัดเก็บ
ปรับหรือเปลี่ยนแปลง ดึง ให้คำปรึกษา เผยแพร่หรือ ทำให้สามารถเข้าถึงได้ด้วยวิธีอื่นใด รวม ปิดกั้น ลบ
หรือการทำลายซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล จะต้องประมวลผลข้อมูลตามหลักการขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับหลักการประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ ท่านสามารถติดต่อสอบถาม ช่องทางการติดต่อสำหรับ PDPA ได้ตลอดเวลา
ก. ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรม
แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น บริษัทฯ
จึงต้องมีฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อที่จะประมวลผลได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
และโดยหลักแล้วบริษัทฯจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเมื่อมีกรณีดังต่อไปนี้
นอกจากบริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลของท่านตามฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว บริษัทฯ อาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคของท่านตามฐานการประมวลผลและเพื่อความจำเป็นดังต่อไปนี้
ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ใดประสงค์หนึ่งเป็นการเฉพาะแล้ว ท่านสามารถถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ
AIPT จะหยุดการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวที่ท่านได้เคยให้ความยินยอมไว้ลงทันที
และจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการถอนความยินยอมต่อไป อย่างไรก็ตาม
AIPT ขอยืนยันและให้ความมั่นใจว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ จะดำเนินการตามฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นฐานหนึ่งฐานใดเสมอ ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับฐานการประมวลผลข้อมูลที่บริษัทฯ ใช้อ้างอิง ท่านสามารถติดต่อสอบถาม ช่องทางการติดต่อสำหรับ PDPA ได้เสมอ
ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทอาจมีลักษณะที่อ่อนไหว และกฎหมายมีกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดมากขึ้นในการให้ความคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลชนิดพิเศษนี้ (ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ) ข้อมูลเหล่านี้เช่น
ข้อมูลที่เกี่ยวกับ
โดยหลักแล้วการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษนั้นจะไม่สามารถทำได้ เว้นแต่กฎหมายจะให้อำนาจไว้ อย่างไรก็ตามหาก AIPT มีความจำเป็นที่จะต้องประมวลผลข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษนี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อน ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ ท่านสามารถติดต่อสอบถามไปยัง ช่องทางการติดต่อสำหรับ PDPA ได้
ข. ความเป็นธรรม
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลขอยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกประมวลผลโดย
ค. ความโปร่งใส
(ประเภทของข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมและวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล)
โดยหลักแล้ว AIPT จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาโดยตรงจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือ
ได้รับมาโดยอ้อม และจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้
อย่างไรก็ตามหากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์หรือรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลอยู่แล้ว AIPT จะไม่แจ้งข้อมูลดังกล่าวโดยไม่จำเป็นให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบอีก
ในกรณีที่ AIPT ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวม (วัตถุประสงค์ใหม่นี้ไม่ได้ถูกระบุอยู่ในการแจ้งข้อมูลครั้งแรก และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจไม่สามารถคาดหมายได้ถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ใหม่นี้) บริษัทฯ จะใช้มาตรการทั้งหลายที่จำเป็นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนดังกล่าวตามกฎหมาย และจะทำการแจ้งการประมวลผลแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในกรณีที่อาจมีกฎหมายเฉพาะระบุถึงข้อยกเว้นหรือมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดข้อมูลให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ซึ่งบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม ให้กฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับเหนือนโยบายฉบับนี้
ง. ข้อมูลซึ่งจะถูกประมวลผล และวัตถุประสงค์ในการประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่ง AIPT ทำการประมวลผลและวัตถุประสงค์ในการประมวลผลโดยหลักได้แก่ข้อมูลดังต่อไปนี้
ลำดับ | ประเภท | วัตถุประสงค์ |
---|---|---|
1. |
ขั้นตอนการสรรหาและจ้างบุคคลากร: ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น รูปถ่าย เพศ ศาสนา กรุ๊ปเลือด อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในบัตรประชาชน วันและ สถานที่เกิด ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ข้อมูลทางการศึกษา สถานะการจดทะเบียนสมรส เลขทะเบียนประกันสังคม ข้อมูล เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษี ข้อมูลการผ่านการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลสุขภาพและความพิการ ข้อมูลผ่านการอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ข้อมูลสูติบัตร ข้อมูลใบมรณบัตร ลายนิ้วมือ เป็นต้น |
เพื่อสรรหาบุคคลากรและขึ้นทะเบียนพนักงานในระบบการจ้างงานของบริษัทฯ |
2. |
การจัดการทรัพยากรบุคคลและการบริหารทั่วไป: ชื่อ-นามสกุล ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในบัตรประชาชน อายุ เพศ กรุ๊ปเลือด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ สถานะ น้ำหนักและส่วนสูง เชื้อชาติ และสัญชาติ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์ เลขบัญชีธนาคาร รหัสพนักงาน ใบเสร็จรับเงิน รูปถ่าย ข้อมูลเงินเดือน |
เพื่อจัดการด้านต่างๆ เกี่ยวกับทรัพยากรบุคคลและการบริหารทั่วไปเช่น การทำบัญชีเงินเดือนพนักงานไทยและญี่ปุ่น
รายงานภาษี ประเมินผลการทำงาน เบิกจ่ายสวัสดิการ ฝึกอบรมภายในบริษัทและภายนอกบริษัท
รับรองคุณสมบัติวิทยากรภายใน สรรหาเด็กฝึกงาน สัญญาจ้างบริษัทภายนอก (outsource) จัดการกล้อง CCTV
จองตั๋วเครื่องบิน ตรวจสุขภาพพนักงาน |
3. | การจัดการการแจ้งเบาะแสการกระทำผิด (Whistleblowing): | เพื่อรับแจ้ง ดำเนินการสอบสวน รายงานบริษัทในกลุ่ม และดำเนินมาตรการแก้ไข |
4. |
การดำเนินงานบริหารจัดการบริษัท: ชื่อ-นามสกุล ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในบัตรประชาชน เลขทะเบียน ผู้เสียภาษี เลขทะเบียนประกันสังคม ข้อมูลการจ่ายประกันสังคม ข้อมูลเงินเดือนและผลประโยชน์ จำนวนภาษีที่จ่าย ข้อมูลทางการศึกษา ความพิการ สัญชาติ รูปถ่าย รหัสพนักงาน แผนกและตำแหน่งงาน ใบรับรองการฝึกงาน สำเนาบัตรประชาชนและหนังสือเดินทาง เป็นต้น |
เพื่อยื่นเอกสารที่จำเป็นต่อสำนักงานประกัน สังคม กรมสรรพากร สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานชลบุรี กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานเทศบาล และหน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง |
จ. การรักษาความลับและความถูกต้องครบถ้วน
AIPT จัดให้มีมาตรการทั้งทางด้านเทคนิค และด้านองค์กรที่จำเป็น เพื่อให้ความมั่นใจว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
มีการคุ้มครองที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการประมวลผลที่ขัดกับกฎหมาย การสูญหาย
การทำลายข้อมูล หรือ อุบัติเหตุ บริษัทฯ จะใช้มาตรการทางกายภาพ
ทางอิเล็กทรอนิกส์และเชิงบริหารเพื่อทำให้มั่นใจว่าบริษัทฯ รักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย
ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
ฉ. การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น
ในบางกรณี ท่านอาจต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น (เช่น ญาติ ผู้รับผลประโยชน์) แก่บริษัทฯ เช่น
การจัดการโปรแกรมประกันสุขภาพและสวัสดิการต่างๆ สำหรับพนักงาน และข้อมูลการติดต่อกรณีฉุกเฉิน กรณีเช่นนี้
ท่านมีหน้าที่ต้องแจ้งบุคคลดังกล่าวทราบถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้นั้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุ
และต้องยืนยันว่าบุคคลนั้นได้ให้ความยินยอมแล้วหากกฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอม
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สามทั้งในและนอกกลุ่มบริษัท อย่างไรก็ตาม การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะทำได้เฉพาะบนพื้นฐานแห่งความจำเป็นให้แก่ผู้รับซึ่งดำเนินการประมวลผลโดยมีวัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะเจาะจง ทั้งนี้ AIPT จะปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นและเหมาะสม เมื่อทำการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม เพื่อรับประกันการรักษาความลับและความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลที่สามอาจทำได้หลากหลายวิธี ตามที่ได้ระบุไว้โดยมีรายละเอียดดังนี้
ก. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลภายในกลุ่มบริษัท
AIPT สามารถส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลที่สามได้ก็ต่อเมื่อบริษัทฯได้ปฎิบัติตามหลักการและหน้าที่ต่างๆ
ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวคือ บริษัทฯ ที่โอนมีฐานตามกฎหมาย (ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การปฏิบัติตามสัญญา เป็นต้น) ในการส่ง
หรือโอนนี้
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมนี้ บริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามหลักการอื่นๆ ที่ระบุไว้ในข้อ 5 แห่งนโยบายฉบับนี้
ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังกลุ่มบริษัทซึ่งอยู่นอกราชอาณาจักร เช่น ญี่ปุ่น บริษัทฯ ต้องทำตามขั้นตอนตามที่ระบุไว้ในข้อ 5 ค.
ข. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก
นอกเหนือจากกรณีที่ระบุไวในย่อหน้าก่อน AIPT อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึง
หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และบุคคลภายนอกอื่นซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่ได้รับมอบหมาย เช่น บริการสรรหาบุคคลากร
บริการดูแลสุขภาพ บริการทำบัญชี บริการสอบบัญชี บริการทางธนาคาร บริการประกัน และบริการให้คำปรึกษาทางวิชาชีพต่างๆ
เป็นต้น
ค. การส่งหรือโอนข้อมูลไปยังนอกราชอาณาจักร
AIPT อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สามซึ่งอยู่นอกราชอาณาจักรได้
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะทำได้ก็ต่อเมื่อประเทศปลายทางที่รับข้อมูลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ในกรณีอื่นๆ AIPT อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังนอกราชอาณาจักรได้เมื่อ AIPT ได้จัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมซึ่งสามารถบังคับตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์และวิธีที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ในกรณีที่ไม่สามารถส่งหรือโอนข้อมูลไปนอกราชอาณาจักรได้ตามวิธีการที่ได้ระบุข้างต้น บริษัทฯ ยังอาจสามารถส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปนอกราชอาณาจักรได้หลังจากได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว ในการขอความยินยอมให้ส่งและประมวลผลข้อมูลในกรณีนี้ บริษัทฯ จะต้องแจ้งบุคคล ที่เกี่ยวข้องทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางที่รับข้อมูลแล้ว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ข้อ 7 แห่งนโยบายฉบับนี้
AIPT จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบของบริษัทฯ
อย่างปลอดภัยเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสิบปีหลังจากสิ้นสุดสัญญาจ้างงาน ทั้งนี้บริษัทฯ
อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานขึ้นหากจำเป็น
เป็นระยะเวลาอย่างนานที่สุดดังนี้
ในการกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล AIPT จะพิจารณาถึงปริมาณ ลักษณะ
ความอ่อนไหวของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
ความเสี่ยงของความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ บริษัทฯ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านั้น
ได้โดยวิธีอื่นหรือไม่ และข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
หลักจากสิ้นระยะเวลาที่กำหนด บริษัทฯ จะต้องลบ หรือ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้หากบริษัทฯ ยังมีความประสงค์ที่จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงสถิติ และอาจเก็บข้อมูลได้นานกว่าระยะเวลาที่กำหนดสำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดการข้อพิพาท การศึกษา หรือ เพื่อเก็บข้อมูล
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้กำหนดสิทธิต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังคงสามารถควบคุมการประมวลผลข้อมูลของตน ได้ตามสมควร
ภายใต้นโยบายฉบับนี้ AIPT ได้พยายามให้ข้อมูลแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้ได้มากที่สุด
AIPT เข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจยังมีคำถามหรือประสงค์จะทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตน AIPT จึงเข้าใจถึงความสำคัญของสิทธิต่างๆและจะปฏิบัติตามสิทธิเหล่านี้โดยพิจารณาถึงข้อจำกัดทางกฎหมายในการใช้สิทธิเหล่านี้ ทั้งนี้ สิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้แก่
ก. สิทธิในการเข้าถึง
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบ
ของบริษัทฯ หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม อย่างไรก็ตามบริษัทฯ
อาจคิดค่าบริการตามสมควรสำหรับการขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
ข. สิทธิในการขอแก้ไข
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่า AIPT
เก็บรวบรวมข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิแจ้งให้บริษัทฯ
ทราบข้อเท็จจริงนั้นเพื่อให้ทำการแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้องได้เสมอ
อย่างไรก็ตามเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ในการให้ข้อมูล ที่ถูกต้องแก่บริษัทฯ
ค. สิทธิในการลบหรือทำลาย
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตนหาก
การประมวลผลไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (มาตรา 33 พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
ง. สิทธิในการระงับการประมวลผล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ ดังต่อไปนี้
จ. สิทธิในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ได้ให้แก่ AIPT ได้ในกรณีที่ AIPT
ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมืออัตโนมัติ
และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีอัตโนมัติ
นอกจากนี้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังมีสิทธิในการขอให้ AIPT ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (โดยตรงจาก AIPT)
ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องให้ความยินยอมในการประมวลผลนั้น
ฉ. สิทธิในการคัดค้าน
กรณีที่เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถคัดค้านการประมวลผลนั้นได้เสมอ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังสามารถคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้หากมีเหตุผลบางประการซึ่งเกี่ยวข้องกับตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะ ในกรณีนี้ AIPT ต้องหยุดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ บริษัทฯ ได้แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผลที่สำคัญยิ่งกว่าผลประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเพื่อเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องหรือยกขึ้นต่อสู้ตามกฎหมาย
ช. สิทธิในการถอนความยินยอม
ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะเจาะจงแล้ว
ท่านสามารถติดต่อช่องทางการติดต่อสำหรับ PDPAเพื่อขอถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตามการถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
ซ. สิทธิในการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (หน่วยงานรัฐ)
ที่เกี่ยวข้องหากพบว่า
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถใช้สิทธิของตนตามที่กำหนดไว้ในข้อ ก.-ซ. ข้างต้นได้โดยการส่งอีเมลหรือไปรษณีย์ตอบรับมายังช่องทางการติดต่อของ AIPT ที่ได้กล่าวไว้ในข้อ 2 ของนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการขอความร่วมมือในให้เจ้าของข้อมูลผู้นั้นพิสูจน์ตัวตน ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการใช้สิทธิโดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักแล้ว AIPT จะดำเนินการตามคำร้องขอของบุคคลผู้มีส่วนได้เสียภายใน 30 วัน หากไม่สามารถดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดได้บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลในการดำเนินการล่าช้าให้ท่านทราบต่อไป
AIPT ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงและแก้ไขนโยบายฉบับนี้เมื่อจำเป็นและเพื่อทำให้กับสอดคล้องกับหน้าที่ตามกฎหมาย และ/หรือคำแนะนำของหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่กับกับดูแลและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล